วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา(ชมพูภูคา)



    สวัสดีครับคนหลงทาง ไหนๆก็หลงมา  blog นี้แล้วแวะอ่านแวะดูเล่นหน่อยล่ะกันเน้อ

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา(ชมพูภูคา)


           พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน  พื้นที่ราบอยู่ตามบริเวณโดยรอบ มียอดดอยภูคาเป็ยยอดเขาที่สูงที่สุดใน จังหวัดน่าน โดยมีความสูง 1,980 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่ปัจจุบันยอดดอยภูคา มีความสูง 1,910 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะทั่วไปเป็นภูเขาหิน และหินปนทราย โดยในพื้นที่ป่าแห่งนี้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารชั้น 1 A อันเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำน่านและแม่น้ำลำธารสาขาหลายสาย




 เจ้าหลวงภูคา



เล่าหื้อฟังหรือโม้เหียสักน้อยก่อน(เล่าให้ฟังสักนิดก่อน)


อาทิตย์ดับ      ลับทิวไม้     ที่ชายป่า

ดวงจันทรา      แจ่มกระจ่าง     สว่างใส

วันนั้นสุข        วันนี้เศร้า      คละเคล้าไป

หมุนเวียนไป     เป็นเช่นนี้      ตราบนิรันดร์


        
ดอยภูคา  ที่นี่ก็เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งหลายที่ชื่นชอบธรรมชาติ  และมีความสวยงามอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กับที่อื่นและเป็นอุทยานที่ขึ้นชื่อของเมืองน่านเลยก็ว่าได้ครับ  จุดเด่นก็คือ  ดอกชมพูภูคาที่มีแห่งเดียวในโลก มีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ และตามที่อุทยานต่างๆก็เริ่มปลูกกันไว้บ้างแล้ว  ครับ




             ครั้งตอนที่ผมไปเที่ยว  ก็หลายปีมาแล้วครับสมัยที่ผมยังเรียนอยู่ในจังหวัดล่ะครับ ถนนหนทางก็สะดวกดีน่ะครับ  เพราะว่าเป็นทางผ่านไปอำเภอบ่อเกลือ และ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ  2อำเภอนี้ไม่ค่อยจะมีพื้นที่ราบสักเท่าไหร่ครับ  ขนาดตัวอำเภอยังอยู่เชิงเขาเลย  ถนนหนทางก็อย่างว่าล่ะครับมีทั้งดินสไลส์ หินร่วงลงมาขวางถนนบ้าง ก็ตามการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติในแต่ล่ะปีล่ะครับ 



            มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมไปอำเภอบ่อเกลือ (ช่วงนั้นไปบ่อยเหมือนกันน่ะครับ) ผมไปออกหน่วยศูนย์ช่อมสร้างเพื่อชุมชนอำเภอบ่อเกลือไปนอนค้างคืนอยู่ที่นั้นทุกๆ เสาร์อาทิตย์  ไปหลายอาทิตย์อยู่เหมือนกัน ก็อย่างว่าล่ะครับขึ้นไปแบบเป็นทางการ  เขาก็ต้อนรับเราดีหน่อย เพราะเราไปสร้างฟรีซ่อมฟรีให้เขานะครับ  หลังจากนั้นแหละครับเครื่องมือเครื่องใช้ไฟฟ้าเอามาให้ซ่อมกันเยอะเลย  ซ่อมได้บ้าง ซ่อมไม่ได้บ้าง งูๆปลาๆไปงั้นแหละครับ  ตอนนั้นความรู้ก็ยังน้อยอยู่เลย  ถ้าซ่อมไม่ได้ ก็แกล้งบอกว่าอะไหล่ไม่มีครับ หรือไม่ก็ ไม่ได้เอาอะไหล่มาด้วยครับ ( แฮ่ะๆเอาตัวรอดไปก่อนล่ะกัน)   มีอยู่เหตุการณ์หนึ่ง ลุงเขาเอาเครื่องเสียงมาให้ช่อม มาถึงปุ๊บผมก็จัดการถอดส่วนประกอบออกเองเลย ลุงเขาก็นั่งเฝ้าดูน่ะครับไม่ไปไหนเลย ไอ้เราก็กดดันเพราะเจ้าของเขามานั่งเฝ้าด้วยนี้สิ  ผมก็เริ่มซ่อมไปเรื่อยๆ กึ่งลองกึ่งมั่ว ไม่รู้อะไรมันเสีย   และแล้วก็มาถึงตอนลองเครื่องเสียงนี้แหละครับ ก็ใช้เพื่อนให้ไปเอาปลั๊กไฟมาให้ แล้วให้เพื่อนเสียบปลั๊กเครื่องเสียงให้ด้วย  เท่านั้นแหละครับ ทั้งควัญกลิ่นและเสียงออกมาพร้อมกันหมดเลย สีหน้าผมของตอนนั้นกับลุงเจ้าของเครื่องเสียงนั้น  ไม่หนีกันเลยครับ     


ดอกชมพูภูคา


         
   การเป็นอยู่ของคนแถวนั้นก็อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง   คำว่า  อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ในความหมายของผมนั้นหรอครับ คือ พวกเรา(ขอใช้คำว่าพวกเราน่ะครับ  เพราะบ้านผมก็อยู่ป่าเหมือนกันแต่ก็ยังใกล้ตัวอำเภอหน่อย  แต่การเป็นอยู่ก็คล้ายๆกันล่ะครับ)  ก็เหมือนตัดจากโลกภายนอก คือ ไม่ต้องวิ่งตามใคร ไม่ต้องแย่งใคร  มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น อยู่อย่างพอเพียงตามพระราชดำริของในหลวง  ขนาดหินที่เขาใช้ผสมปูนสร้างบ้านก็ยังไปเก็บที่แม่น้ำเลยครับ (ตอน 8ปี ที่แล้วน่ะครับตอนนี้ก็คงมีรถวิ่งเข้าไปส่งแล้วล่ะ) กลางวันกลางคืนก็เงียบสงบ 
   





ชมพูภูคา, อุทยานดอยภูคา, ดอยภูคา, เที่ยวน่าน, อุทยานจังหวัดน่าน

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 



         ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 8 อำเภอ คือ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเชียงกลาง อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอสันติสุข อำเภอแม่จริมและอำเภอบ่อเกลือ มีพื้นที่ประมาณ 1,065,000 ไร่ เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่มีทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่าที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ รวมทั้งเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว ลำน้ำว้า ที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวจังหวัดน่าน และยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ กล่าวคือ เป็นที่เชื่อกันว่าเทือกเขาดอยภูคาเป็นเมืองเก่าของบรรพบุรุษของคนเมืองน่านและในปัจจุบันนี้ก็ยังมีศาลเจ้าพ่อภูคา ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 31 ถนนสายปัง-บ่อเกลือ อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดน่านและบุคคลทั่วไป

• ปี พ.ศ.2526 ราษฎรของ จ.น่าน ได้เห็นความสำคัญที่จะอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธารเพื่อป้องกันการบุกรุกทำลาย จึงได้มีหนังสือถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กำหนดป่าดอยภูคา อ.ปัว ให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ต่อมาได้ประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาแนวเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคาเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2542 อีกทั้งภายในบริเวณพื้นที่ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อาทิ ถ้ำ น้ำตก ล่องแก่งต่างๆและต้นชมพูภูคา ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนทั้งประเทศและต่างประเทศ







จุดเด่นที่น่าสนใจของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา

1. ต้นชมพูภูคา
เป็นพรรณไม้ที่มีชนิดเดียวในโลก ในประเทศไทยพบเพียงที่เดียวที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ต้นชมพูภูคา เป็นไม้ยืน ต้นขนาดใหญ่ สูงถึง 25 เมตร เปลือกเรียบ สีเทาอ่อน ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม

2.เต่าร้างยักษ์ (เต่าร้างน่านเจ้า)
เป็นไม้เฉพาะถิ่นของดอยภูคา จัดเป็นประเภทปาล์มลำต้นเดี่ยว สูงประมาณ 40 เมตร ยังไม่มีรายงานว่าพบที่ใด ในโลก 

3. ก่วมภูคา

เป็นพรรณไม้ที่พบครั้งแรกในประเทศไทย จัดเป็นไม้ผลัดใบ พืชวงศ์เดียวกับเมเปิ้ล ลำต้นสูงประมาณ 15 - 20 เมตร ใบอ่อนสีแดงเว้า 5 แฉก ใบแก่สีเขียว 3 แฉก นอกจากนี้ยังมีพรรณไม้หายาก อาทิ จำปีช้าง ไข่นกคุ้ม ค้อเชียงดาว โลดทะนงเหลือง ขาวละมุน เทียนดอย เสี้ยวเครือ มะลิหลวง สาลี่หนุ่ม เหลือละมุน กุหลาบขาว เชียงดาว ฯลฯ

4. ถ้ำผาแดง, ถ้ำผาผึ้ง
เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยอันความสวยงามและยังมีลำธาร น้ำตกภายในถ้ำด้วยเป็นถ้ำที่ยาวมากที่สุดใน อุทยานฯ ตั้งอยู่ในบริเวบ้านมณีพฤกษ์ อ.ทุ่งช้าง (อ่านรายละเอียดในบ้านมณีพฤกษ์)

5. ถ้ำผาฆ้อง
เป็นถ้ำขนาดกลาง ปากถ้ำจะมีขนาดเล็ก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยอันสวยงามและลำธารไหลผ่านใน ช่วงฤดูฝน ไม่สามารถเข้าไปเที่ยวได้เพราะภายในถ้ำอาจมีน้ำท่วม อย่ระหว่างทางขึ้นอุทยานฯ

6. น้ำตกต้นตอง

เป็นน้ำตกหินปูน ขนาดกลาง มี 3 ชั้น สูงประมาณ 60 เมตร อยู่บริเวณใกล้ๆที่ทำการอุทยานฯ

7. น้ำตกวังเปียน
อยู่ใกล้กับหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 8 (บ้านห้วยโกร๋น) เขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ 

8.จุดชมวิวลานดูดาว
เป็นจุดกางเต้นท์พักแรมและชมทะเลหมอกยามเช้า ซึ่งท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์ของขุนเขา

9. เส้นทางศึกษาธรรมชาติ 
บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ท่านได้เดินเที่ยวชมพันธุ์ไม้ บรรยากาศสวยครับ 

10. ล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง 
ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นเส้นทางล่องแก่งน้ำว้าระดับ 3 - 5 ประมาณ 20 กว่าแก่ง ต้องใช้เวลากับการ พักแรม กลางป่าระหว่างการล่องแก่งด้วย ซึ่งลำน้ำว้าเกิดจากเทือกเขาในเขตอุทยานขุนน่าน ไหลผ่านพื้นที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ผ่านอุทยานแห่งชาติแม่จริม ก่อนที่จะไหลไปรวมกับแม่น้ำน่าน

11. ดอยภูแว 

เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ยอดดอยมีความสูง 1,837 เมตรจากระดับ น้ำทะเล มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้า ลานหิน หน้าผา และพันธุ์ไม้ที่สำคัญ อาทิ ดอกกุหลาบพันปี ค้อ ทุ่งดอกไม้ เป็น สถานที่ ชมวิวทิวทัศน์และทะเลหมอกอันสวยงาม การเดินทางสู่ดอยภูแวต้องเดินเท้าเป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร มีลูกหาบไว้คอยบริการ

ชมพูภูคา, อุทยานดอยภูคา, ดอยภูคา, เที่ยวน่าน, อุทยานจังหวัดน่าน
by จันผา    รูปอ้างอิงมาจากที่อื่นน่ะครับ     ไว้กลับบ้านจะแวะไปถ่ายรูปมาฝากครับ

ชมพูภูคา, อุทยานดอยภูคา, ดอยภูคา, เที่ยวน่าน, อุทยานจังหวัดน่าน

วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ดอยวาว หรือ อุทยานนันทบุรี



อุทยานแห่งชาตินันทบุรี หรือ ฮ้องว่าดอยวาวครับภาษาเหนือ
จังหวัดน่าน

ดอยวาว, อุทยานแห่งชาตินันทบุรี, แอ่วดอยวาว, แอ่วน่าน, 


 ....ธรรมชาติมอบความรักและสิ่งที่สวยงาม ให้
 เก็บเกี่ยวความรู้สึกดีๆไว้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เดินหน้าต่อไป
ไปสู่สิ่งสวยงามที่รอเราอยู่   ของดีมีอยู่ตางหน้าเสมอเน้อหมู่เฮา....




        มีอุทยานแนะนำครับ     อุทยานแห่งชาตินันทบุรี   หรือ ดอยวาว เป็นที่คุ้นปากของคนแถวนั้น(บ้านผมเองเพราะก่อนขึ้นอุทยานต้องผ่านบ้านผมก่อน)   อุทยานแห่งนี้ไม่ค่อยจะเป็นที่รู้จักกันมากเท่าไหร่ครับ เพราะทางขึ้นไปก็ยากลำบากเต็มทน ตอนที่ผมกลับบ้านช่วงหน้าฝนผมเลยแวะเข้าไปดูโอ้โห้ตอนลงมาเนี้ยหายใจไม่ทั่วท้องเลย               ฝนก็ตก       ดีน่ะที่ไปคนเยอะช่วยกันเข็นรถเลยน่ะครับ  
       
       อุทยานแห่งชาตินันทบุรี     ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอบ้านหลวง รวมทั้งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำยาว-น้ำสวก และป่าสงวนแห่งชาติถ้ำพุเตย มีอุณหภูมิเฉลี่ย 8.4 องศาเซลเซียส สูงสุด 40.8 องศาเซลเซียส เป็นป่าผสมผลัดใบ ดิบแล้ง ดิบเขา มีไม้ประเภท สัก ประดู่ ตะแบก ฯลฯ และในเขตอุทยานฯ นี้ยังเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนเผ่ามลาบรี หรือ ผีตองเหลืองสถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่ ดอยผาจิ ดอยวาว น้ำตกสันติสุข น้ำตกสองแคว น้ำตกห้วยพริก น้ำตกตาดฟ้าร้อง น้ำตกดอยหมอก และน้ำพุร้อน
ดอยวาว, อุทยานแห่งชาตินันทบุรี, แอ่วดอยวาว, แอ่วน่าน, 



ลักษณะภูมิประเทศ

           อุทยาน แห่งชาตินันทบุรีมีอาณาเขตติดต่อทิศเหนือจดเขตอำเภอสองแคว จังหวัดน่านและเขตอำเภอปง จังหวัดพะเยา ทิศใต้จดเขตอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ทิศตะวันออก จดทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1080 ( น่าน-ทุ่งช้าง) ทิศตะวันตก จดเขตอำเภอเชียงม่วง จังหวัด พะเยา เขตพื้นที่สำรวจจัดตั้ง อุทยานแห่งชาติ ดอยภูนาง และ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาช้าง จังหวัดพะเยา ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนวางตัวในแนวเหนือใต้ อยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดน่าน จนไปจดประเทศลาว ระดับความสูงของพื้นที่ประมาณ 300-1,710 เมตรจากระดับน้ำทะเล ความลาดชันของพื้นที่โดยเฉลี่ยประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ “ยอดดอยวาว” ความสูง 1,710 เมตรจากระดับน้ำทะเล ลักษณะของหิน ส่วนใหญ่เป็นหินที่เกิดในมหายุค Mesozoic Paleozoic และ Neozoic ซึ่งส่วนใหญ่คือ หินตะกอน มีอายุอยู่ในหลายช่วงอายุด้วยกัน นอกจากนี้เป็นหินภูเขาไฟ และหินก่อนหินภูเขาไฟบ้างประปรายกระจายในพื้นที่ เป็นแหล่งต้นน้ำของลำห้วยหลายสายซึ่งเป็นลำห้วยที่คอยหล่อเลี้ยงลำน้ำน่าน และลำน้ำยม ได้แก่ ลำน้ำสมุน ลำน้ำสะเนียน ลำน้ำวาว ลำน้ำยาว ลำน้ำพี้ ลำน้ำตึม ลำน้ำสีพัน ลำน้ำไสล ลำน้ำระพี และลำน้ำคาง เป็นต้น


ดอยผาจ้าง(ผาช้าง)ครับ

เพราะว่าเวลาเรายืนอยู่บนอุทยานยามเย็นๆตอนพระอาทิตย์ตก จะเห็นเขา 2 ลูก มีรูปเหมือนช้างทำท่าจะชนกันอยู่เขาเลยเรียกว่าผาช้าง 


ที่นั่งรอบกองไฟตอนสิ้นปีครับ

         และลานกางเต้นตอนสิ้นปีครับคนกรุงเทพมักจะขึ้นไปเที่ยวจำนวนมาก  เพราะว่าเวลารถขึ้นไปเที่ยวจะผ่านหน้าบ้านเพื่อนผม และผมก็นั่งสังสรรค์กันอยู่ลานหน้าบ้าน อากาศหนาวๆ หมอกเย็นๆ กีต้าสักตัว โอ้ยสวรรค์เลยล่ะครับ  บรรยากาศแบบนี้ หาชื้อในกทม.ไม่ได้อีกแล้ว   ลืมบอกไปว่า ทางอุทยานเขามีเต้นให้เช่าด้วยน่ะครับ      


ดอกซากุระเมืองไทย(พญาเสือโคร่งเน้อ)

ต้องไปตอนเดือนมกราคมครับก็ช่วงหน้าหนาวนั้นล่ะครับอะไรก็สวยงามไปหมด  อากาศก็สดชื่น ต้นไม้ออกดอกกันเต็มไปหมดสวยมากเน้อ


by  จันผา   รูปอ้างอิงจากที่อื่น ไว้กลับบ้านจะถ่ายรูปมาฝากใหม่น่ะครับ



ดอยวาว, อุทยานแห่งชาตินันทบุรี, แอ่วดอยวาว, แอ่วน่าน,